การคุมกำเนิดคือตัวช่วยในการวางแผนครอบครัวที่ช่วยลดปัญหาต่างๆ ที่เกิดจากการตั้งครรภ์โดยไม่พร้อม ทั้งในระดับครอบครัวและระดับสังคม ซึ่งในปัจจุบันมีวิธีการคุมกำเนิดหลากหลายแบบด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการกินยาคุมกำเนิด การใช้ยาคุมแบบฉีดชนิด 1 เดือน, ยาคุมแบบฉีดชนิด 3 เดือน หรือการฝังยาคุม สำหรับผู้ที่ไม่ชอบกินยาหรือลืมบ่อยๆ การฉีดหรือการฝังยาคุมกำเนิดถือว่าเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมและมีผลลัพธ์ที่น่าพอใจ ซึ่งในบทความนี้เราจะมาทำความเข้าใจข้อแตกต่างระหว่างยาคุมแบบฉีดกับการฝังยาคุมกัน
ข้อแตกต่างของยาคุมแบบฉีดกับฝังยาคุมมีดังนี้

- ประสิทธิภาพในการคุมกำเนิด
เรื่องแรกเลยที่ถือว่าเป็นข้อแตกต่างระหว่างการคุมกำเนิดทั้ง 2 วิธีนี้ ก็คือประสิทธิภาพในการคุมกำเนิด ซึ่งการฝังยาคุมกำเนิดนั้นถือว่าให้ผลในการป้องกันได้ดีกว่าการฉีดยาคุม ไม่ว่าจะเป็นยาคุมแบบฉีดชนิด 1 เดือน หรือ ยาคุมแบบฉีดชนิด 3 เดือน โดยการฝังยาคุมมีโอกาสเกิดการตั้งครรภ์เพียง 0.05% ส่วนยาฉีดคุมกำเนิดจะมีโอกาสตั้งครรภ์ประมาณ 6%
- ราคาฉีดยาคุมกำเนิดและฝังยาคุมกำเนิด
- ระยะเวลาในการคุมกำเนิด และความกังวลของผู้รับบริการ
สำหรับการฝังยาคุมนั้นเป็นการคุมกำเนิดในระยะยาวที่สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ตามประเภทของยาคุมที่ฝังโดยมีระยะเวลา 3 ปี และ 5 ปี
ส่วนการฉีดยาคุมกำเนิด (Injection Contraceptives) สามารถคุมกำเนิดได้ในระยะสั้นเพียง 1 – 3 เดือนเท่านั้น เมื่อครบกำหนดก็ต้องทำการฉีดซ้ำ
ซึ่งจะเห็นได้ว่าการฝังยาคุมนั้นป้องกันได้ยาวนานกว่าจึงสบายใจได้ว่าจะลดโอกาสการตั้งครรภ์ และไม่ต้องกังวลเรื่องกินยาหรือฉีดยาคุมบ่อยๆ ด้วย
- การกลับเข้าสู่ภาวะเจริญพันธุ์
แน่นอนการคุมกำเนิดนั้นเป็นการป้องกันในช่วงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น เมื่อถึงจุดหนึ่งคุณพ่อคุณแม่มีความพร้อมก็อาจต้องการที่จะมีบุตร และยกเลิกการคุมกำเนิด ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบยาคุมแบบฉีด กับการฝังยาคุมแบบ 3 ปี และ 5 ปี การคุมกำเนิดด้วยวิธีฝังยาคุมจะสามารถกลับเข้าสู่ภาวะเจริญพันธุ์เพื่อมีบุตร ได้เร็วกว่าการป้องกันด้วยการฉีดยาคุมถึง 90 % เลยทีเดียว
- ประเภทของฮอร์โมน
สำหรับยาคุมแบบฉีดนั้นมีทั้งแบบฮอร์โมนรวมที่ประกอบด้วยฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสโตเจน ใช้คุมกำเนิดได้นาน 1 เดือน กับยาฉีดคุมกำเนิดชนิดที่มีฮอร์โมนโปรเจสโตเจนอย่างเดียวใช้คุมกำเนิดได้นาน 3 เดือน ในขณะที่ยาคุมกำเนิดแบบฝังจะเป็นแบบฮอร์โมนชนิดเดียวอย่างเดียวไม่มีแบบฮอร์โมนรวม
- การคุมกำเนิดหลังคลอด
ความแตกต่างระหว่างยาคุมแบบฉีดกับฝังยาคุมในกรณีของคุณแม่หลังคลอด หากเป็นยาคุมกำเนิดแบบฝังสามารถทำได้หลังคลอด โดยไม่มีผลกับน้ำนม เหมือนยาคุมชนิดฉีดแบบรายเดือน ทั้งนี้ควรอยู่ในดุลยพินิจของแพทย์ที่จะประเมินก่อนการคุมกำเนิดด้วย
- ความเจ็บจากการฝังยาคุมและฉีดยาคุม
การฝังยาคุมกำเนิดจะมีการผ่าตัดที่ท้องแขนเป็นแผลเล็กๆ มากๆ ซึ่งผู้ที่มารับบริการก็จะเจ็บตัวครั้งเดียวในระยะเวลา 3 หรือ 5 ปี ตามยาคุมที่เลือกฝัง ซึ่งถือว่าฝังแท่งยาครั้งเดียวแล้วออกฤิทธิ์ยาวๆ ส่วนการฉีดยาคุม จะคุมกำเนิดชั่วคราวในระยะเวลาที่สั้นกว่ามาก คือ 1 เดือน หรือ 3 เดือน ก็ต้องมาพบแพทย์เพื่อฉีดยาคุมกำเนิดตามนัด เป็นข้อแตกต่างระหว่างยาคุมแบบฉีดกับฝังยาคุมที่คุณสามารถเลือกได้